[oh! my emperor fic] oh! my lord (เป่ยถังม่อหราน/เซียวจ้าน x oc) หวางเย่ที่รัก - นิยาย [oh! my emperor fic] oh! my lord (เป่ยถังม่อหราน/เซียวจ้าน x oc) หวางเย่ที่รัก : Dek-D.com - Writer
×

    [oh! my emperor fic] oh! my lord (เป่ยถังม่อหราน/เซียวจ้าน x oc) หวางเย่ที่รัก

    หลานหลิวซิง สละชีวิตตนเองเพื่อช่วยแผ่นดินในฐานะสะใภ้แห่งราชวงศ์แคว้น เฉินอ๋อง เป่ยถังม่อหราน เพิ่งรู้สึกตัวว่ารักนางเมื่อนางจากไป เขาวิงวอนต่อดาว เพื่อให้เขาได้แก้ตัว และครั้งนี้ เขาจะไม่ทำพลาดอีก....

    ผู้เข้าชมรวม

    2,423

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    22

    ผู้เข้าชมรวม


    2.42K

    ความคิดเห็น


    14

    คนติดตาม


    49
    จำนวนตอน :  4 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  14 มิ.ย. 63 / 12:45 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

     

        วังหลวงแคว้นจักรราศี ปีที่ 13

          โลหิตแดงฉานไหลริน ย้อมภูษาขาวแดงดุจชาด ฝ่ามือหนากร้านศึกสั่นเทายามประคองร่างบอบบางในอ้อมแขน น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าตกกระทบกรอบหน้าสวย

    “เป่ยถังม่อหราน...”

    “หลานหลิวซิง เจ้าหยุดพูดเดี๋ยวนี้ เก็บแรงของเจ้าเอาไว้”

    หลานหลิวซิงแค่นยิ้มอ่อนแรง ดวงตาที่เคยใสสกาวบัดนี้แลดูมืดหม่น อ๋องเฉินจ้องมองดวงตาคู่สวย กล่าวโทษตนเป็นสิบครั้งที่ทำให้นางต้องพบจุดจบเช่นนี้ ชายหนุ่มใช้มือที่สั่นเทาปาดเลือดสีแดงสดที่ริมฝีปากอิ่มเบา ๆ

    “เห็นท่านครั้งแรก ดั่งความฝัน สง่างาม องอาจแม้นยังเยาว์วัย ท่านใจดี เล่นกับข้าแบบไม่ถือตน” เสียงหวานแหบแห้งเอื้อนเอ่ย ถ้อยวจีฟังดูดั่งสาวน้อยแรกรักบีบรัดดวงหทัยของอ๋องหนุ่มจนเจ็บปวด

    "พบท่านในฐานะอ๋องอีกครั้ง ข้าเข้าวังเข้าเฝ้าหมู่โฮ่ว กำไลทองช่างงดงาม เพราะท่านสวมมันให้ข้า” หลิวซิงหัวเราะออกมาน้อย ๆ  ทั้งยังไอออกมาอีกสองสามที เลือดสด ๆ ก็ทะลักออกมาอีกครั้ง ม่อหรานรั้งร่างบอบบางแนบอกพลางใช้แขนเสื้อผ้าไหมอย่างดีซับออกให้นางอย่างไม่คิดรังเกียจ มืออีกข้างลูบกลุ่มผมหนานุ่มเบา ๆ หวังปลอบประโลมนาง

    “พบท่านอย่างเป็นทางการคราที่สาม ท่านมาที่จวนของข้า เจรจาสู่ขอข้าจากบิดาของข้า ข้าจำได้ วันนั้น ท่านไม่ยิ้มเลย” นางยังคงหัวเราะราวทุกอย่างเป็นเรื่องตลก เลือดยังคงไหลไม่หยุดจนม่อหรานเริ่มร้อนลนขึ้นเรื่อย ๆ

    “ตั้งแต่นั้น ข้ามีเป้าหมายเพียงหนึ่ง รอยยิ้มของท่าน ข้าอยากเห็นมัน” ฝ่ามือเรียวสั่นเทาค่อย ๆ เลื่อนขึ้นแตะใบหน้าของชายหนุ่มอย่างแผ่วเบา ม่อหรานก้มมองหญิงสาวผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นชายาเอกของตนด้วยแววตาปวดร้าว หยาดน้ำตาไหลรินด้วยความเงียบงัน หลานหลิวซิงค่อย ๆ เกลี่ยมันออกอย่างเบามือ

    “ข้าต้องการรอยยิ้ม หาใช่น้ำตาของท่าน”

    “หลิวซิง... ข้า...” ม่อหรานกลืนก้อนน้ำลายในคอลง เขาพยายามอ้าปากพูด

    ดวงตาของนางดูผ่อนคลายและโศกเศร้าในที

    “ตลอดชีวิตนี้ ข้ามีเรื่องเสียใจเพียงสอง หนึ่งนั้นคือไม่อาจได้รับความรักจากท่าน สองนั้นคือไม่อาจสร้างครอบครัวกับท่าน” ใบหน้างามเปื้อนเลือดและน้ำตา ความรู้สึกทั้งปวงถ่ายทอดผ่านรอยยิ้มสุดท้าย

    “เฉินอ๋อง... เป่ยถังม่อหราน... สวามีของข้า...” นางกระอักเลือดคำโตออกมา

    “หลิวซิง อย่านะ...” อ๋องหนุ่มสะอื้น

    “ข้ารักท่าน...” เสียงของนางหนักแน่นและตราตรึง ประทับลึกลงในหทัยของผู้เป็นสวามี ยามฝ่ามือเรียวร่วงหล่นจากกรอบหน้า อ๋องหนุ่มก็หลับตาลง พร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงสู่ดวงตาคู่สวยของนาง ที่บัดนี้ปิดสนิท และจะไม่ลืมขึ้นอีก อ๋องเฉิน เป่ยถังม่อหรานผู้เกรียงไกรแห่งแคว้นจักราศีดึงกริชดวงดาราออกจากกลางอกของนางทั้งน้ำตา ก่อนจะทรงโอบกอดร่างไร้ชีวาของพระชายาเอาไว้แน่น

    ยามนางอยู่เจ้ามิเคยกอดนาง ยามนางจากไปกลับโหยหายิ่งนัก

    เป่ยถังม่อหราน เจ้ามันโง่งมนัก...

    “หวงซู (เสด็จอา) พวกเราชนะแล้วพะย่ะค่ะ” เป่ยถังอี้ในชุดนักรบรีบวิ่งเข้ามาในท้องพระโรง เหล่าทหาร เจ้าราศี และขุนนางมากมายต่างมีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้า

    “....ฉ... เฉินหวางเฟย!

    ฮ่องเต้หนุ่มและถังอ๋องตกอยู่ในอาการตะลึง เหล่าขุนนางนับสิบทั้งชายหญิงก็ไม่ต่างกัน

    พระชายาเอกในเฉินอ๋อง ใช้ดวงพระวิญญาณของพระนางเซ่นสังเวยกลุ่มดาวจนพวกเขารอดมาได้

    แลกไปด้วยชีวิตของนาง...

    เป่ยถังถังทรุดนั่งลงกับพื้น ดวงตาคมรื้นหยดน้ำตา อ๋องน้อยรู้สึกราวโลกทั้งใบได้ทลายลงตรงหน้า

    “ห... หวงซูหมู่...(เสด็จอาสะใภ้)”

    นึกถึงรอยยิ้มของนาง

    นึกถึงเสียงใสของนาง

    นึกถึงดวงตาสุกสกาว จ้องมองเสด็จอาด้วยความรักและเทิดทูน...

    ไม่ได้เห็นอีกแล้ว...

    ..........................................................................................................................

    “....ประกาศสำคัญจากวังหลวง ขอให้ทุกคนมารวมกันตรงนี้” เหล่าชาวบ้านที่รวมตัวฉลองชัยชนะที่วังหลวงต่างจับจูงกันมาที่หน้าประตูวัง บางคนเลือดตกยางออก แต่ต่างก็ดีใจเป็นอย่างยิ่งที่พวกเขาเป็นฝ่ายชนะ

    “พ่อหนุ่ม มีข่าวอะไรจากในวังหรือ?”

    “หวงช่างจะให้มีการฉลองใช่หรือเปล่า?” เหล่าชาวบ้านกอดคอกันร้องเฮ ใครมีเหล้าแจกจ่ายเหล้า ต่างตะโกนสรรเสริญองค์ฮ่องเต้ เหล่าเชื้อพระวงศ์ และเหล่าเจ้าราศีกันใหญ่ ทหารสองนายที่มีหน้าที่ประกาศข่าวจนปัญญาที่จะทำให้ชาวบ้านเงียบลงได้

    “เอ๊ะ นั่นเฉินอ๋องนี่...” หญิงชราชี้นิ้วเหี่ยวย่นของนางไปทางประตูวัง

    ฉับพลันเกิดลมกรรโชกรุนแรง เหล่าชาวบ้านต่างยกมือปัดป้องใบน้ากันจนชุลมุนไปหมด

    ท่ามกลางพายุขนาดย่อม เฉินอ๋องและถังอ๋องก็ก้าวออกมา

    ในอ้อมแขนของเจ้าราศีกุมภ์คือร่างไร้ลมหายใจของพระชายาผู้เป็นที่รัก เหล่าชาวบ้านต่างจับจ้องด้วยแววตาตื่นตกใจ ใบหน้าสวยซีดเปื้อนเลือด ชุดสีฟ้าเหลือบขาวที่ทรงโปรดแทบจะกลายเป็นสีแดง เส้นผมนุ่มลื่นที่เคยสะท้อนแสงจันทร์เงางามจับเป็นก้อนเพราะเลือดแห้งกรัง ในมือของนางกำปิ่นก้านดอกเหมยไว้แนบอก

    ชาวบ้านทั้งหมดต่างพากันเงียบเสียงลง ถังอ๋องผู้มีน้ำตานองหน้ามองไปรอบ ๆ ก่อนเอ่ยขึ้น

    “เฉินหวางเฟยใช้กริชดาราแทงทะลุหัวใจของพระนาง ใช้วิญญาณสังเวยให้แก่ดวงดาว พวกเรารอดพ้นจากภัยในครั้งนี้... พระนาง สิ้นพระชนม์แล้ว”

    เสียงรอบข้างเงียบอยู่สักพัก เสียงอื้ออึงก็ดังขึ้นมา เหล่าชาวเมืองร่ำให้ไม่สนฟ้าดิน เสียงนั้นดังถึงตำหนักใน ที่ซึ่งไท่หวงไท่โฮ่วทรงเช็ดน้ำตาของพระนางด้วยความร้าวราน

    เจ็ดปีมานี้ หลานหลิวซิงเป็นหลายอย่าง

    นางเปรียบเสมือนมารดาของแผ่นดิน แม้ไม่มีฮองเฮา ก็ได้นางช่วยดูแลแผ่นดิน

    นางคือ (พระสุณิสา)ลูกสะใภ้ผู้แสนกตัญญู

    นางเป็นนายหญิงที่สมบูรณ์แบบแห่งจวนอ๋อง

    นางเป็นวีรสตรีที่ทั้งแผ่นดินต้องจารึก

    และ

    นางเป็นฟูเหริน (ภรรยา)ที่ดีที่สุด เท่าที่เป่ยถังม่อหรานผู้นี้จะร้องขอจากสวรรค์

    อ๋องหนุ่มหลับตาลง ปล่อยให้น้ำตาไหลลงอาบย้อมใบหน้าหล่อเหลา สายลมโชยอ่อนพัดผ่านข้างแก้ม ราวกับจุมพิตอำลาจากใครบางคน

    ....ข้าแต่เทพสวรรค์ชั้นฟ้า ดวงตะวันจันทรา ดวงดารานับหมื่นแสน ข้า เป่ยถังม่อหรานผู้โง่เขลาผู้นี้ขอวิงวอน ได้โปรดมอบโอกาสให้แก่ข้าผู้ทำพลาดพลั้ง

    ได้โปรด คืนนางสู่อ้อมแขนของข้าที...

    ............................................................................................................................................................

    “หวางเย่เพคะ ได้เวลาแล้วเพคะ” เสียงนางกำนัลสาวดังขึ้นจากนอกประตูเรือนหลักของจวนอ๋อง ชายหนุ่มหล่อเหลาในอาภรณ์ม่วงสะดุ้งตื่นขึ้นในทันใด

    เขาค่อย ๆ มองไปรอบ ๆ ห้องเพื่อปรับสายตาให้เคยชินกับแสงสว่าง ภาพความฝันไหลย้อนเข้ามาเป็นฉาก ๆ พาลให้ปวดขมับ ต้องตั้งสติเรียบเรียงอยู่นาน

    มันคือ คำทำนายอย่างนั้นหรือ?

    “ม่อหราน รีบแต่งตัวได้แล้ว เจ้าต้องไปจวนสกุลหลาน” เสียงสหายสนิทดังขึ้น อ๋องหนุ่มทอดมองนาฬิกาจักรราศีเวทย์ที่ว่องแสงเรืองรอง

    ปีที่ 6 หรือ?

    จะความฝัน หรือการย้อนอดีต

    เขาก็มีโอกาสแก้ตัว

    ในครานี้ เขาจะไม่ยอมให้นางต้องตาย

    ไม่ว่าด้วยทางใดก็ตาม...


    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น